Great Ocean Road : Romantic Road Trip ท่องเที่ยวบนถนนสายโรแมนติก

                 “Great Ocean Road” หรือชื่อเล่นในวงการคือ GOR เป็นถนนสายมรดกแห่งความทรงจำที่อยู่ในรัฐวิกตอเรีย เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ที่ทอดยาวถึง 243 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงเหล่าทหารกล้าที่สละชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งสร้างโดยทหารที่เดินทางกลับมาจากสงครามโลกในปี 1918 (ข้อมูลจาก www.visitvictoria.com) โดย GOR นี้ถือได้ว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งก็ว่าได้ค่ะ เพราะเราสามารถมองเห็นทิวทัศน์วิวทะเลสีน้ำเงินสวยระยิบระยับขนาบตลอดข้างทาง ด้วยเหตุนี้เองถนนเส้นนี้จึงกลายเป็นเส้นทางสุดแสนโรแมนติก ให้อารมณ์แบบขับรถชมทะเลไปกับสายน้ำและสองเรา โรแมนซ์สุดๆ ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว เรามาเริ่มต้นออกเดินทางกันดีกว่าค่ะ!!

Let’s enjoy together!!

                “ขับรถชมวิวทะเล เปิดเพลงโปรดคลอเคล้า  เม้าท์กับเพื่อนใหม่ที่ถูกใจ” แค่นี้ก็ฟินระดับ 8 และสนุกสนานไปกับการท่องเที่ยวแล้วค่ะ แถมวันนี้บรรยากาศเป็นใจ ท้องฟ้าโปร่งใส แสงแดดดี๊ดี ทริปนี้เราไปกัน 2 วัน 1 คืน เช่ารถแบบ SUV (คันใหญ่หน่อย) 2 คัน เพราะเราไปกันทั้งหมด 12 คนค่ะ (เรียกได้ว่าเจอใครก็ชวน เลยจัดไปเบาๆ 12 คน!! ทริปใหญ่กับเพื่อนใหม่ 3 สัญชาติ อันได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น และโคลอมเบีย) โดยเราเช่ารถจากบริษัท Thrifty car rent ราคาเช่า 2 วันคันละ $250 (+ประกัน) เฉลี่ยตกคนละ $42 ค่ะ (ปล.การขับรถที่นี่มีกฎเหมือนที่ไทยเลยค่ะ ขับเลนซ้าย พวงมาลัยอยู่ขวา แต่กฎระเบียบเรื่องความเร็วที่นี่จะเข้มงวดมาก ต้องขับตามที่กำหนด ไม่งั้นโดนปรับเงินสูงลิบจ้า)

                Day 1 เช้าวันเสาร์เรานัดหมายเจอกันที่เช่ารถ @Southern Cross Station พอรับรถแล้วก็เดินทางออกจากตัวเมืองเมลเบิร์นเวลาประมาณ 9.30 น. โดยจุดหมายปลายทางสำหรับวันแรกที่เราลิสต์ไว้มีดังนี้ค่ะ
  • Bells Beach
  • Prince town wetland
  • Gibson Steps
  • 12 Apostles
  • Port Campbell

                 Bells Beach l ถึงจุดหมายแรกแล้ว พอก้าวออกมาจากรถพูดได้คำเดียวว่า Omg!! ทะเลที่นี่สวยมากกกกกก คือสีน้ำเงินเข้ม สะท้อนกับสีท้องฟ้าใสยิ่งสวยเข้าไปอีกกก แล้วบรรยากาศก็ดี เรียกได้ว่าสูดโอโซนเข้าปอดทีละหลายเฮือกกกเลยค่ะ เราอยู่ที่นี่กันไม่นาน เดินชมวิวเพลินๆ ถ่ายรูปกันชิลๆ ก็ไปต่อที่ Prince Town I สถานที่นี้เราอ่านรีวิวเจอมาเค้าบอกว่าสวย มุมถ่ายรูปเยอะ แต่กว่าจะมาถึงหลงกันไปนิดหน่อยจ้า เพราะมันเป็นซอยทางลูกรังที่ต้องขับรถเข้ามา ที่นี่จะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกจะเป็นทะเลสาบที่มองไปแล้วสบายตามาก สีน้ำมองแล้วสงบ สดชื่น ตอนเรามามีผู้ชายสองคนนั่งตกปลากันชิลๆ ด้วยค่ะ และก็อีกส่วนจะเป็นทุ่งหญ้าที่มีสะพานทอดยาวลงไป ให้ฟีลสวยแบบแห้งๆ เพราะหญ้าไม่เขียวและแดดค่อนข้างร้อนค่ะ เสร็จจากที่นี่เราก็แวะหาข้าวกลางวันทานค่ะ ตกลงปลงใจกันที่ร้านพิซซ่าซึ่งอร่อยมาก แต่ว่า!! จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ T T

                 ต่อไปเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยค่ะ นั่นก็คือ 12 Apostles หรือเสาหิน 12 แท่งที่ตั้งอยู่กลางทะเล พอเดินลงมาดูใกล้ๆ คือแบบสวยเว่อร์วังมากกก เราดูในรูปมาก็รู้สึกเฉยๆ นะ ประมาณว่าก็แค่เสาหินป่ะว่ะ แต่พอเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ แล้วคือ สวยยยยแบบบรรยายไม่ถูกคือ You must see it with your eyes!!! คือเราถ่ายรูปออกมาว่าสวยแล้วแต่สวยสู้ตาเห็นไม่ได้จริงๆ เราและผองเพื่อนเดินชมวิวตรงนี้กันอยู่พักใหญ่ ลมตรงนี้จะแรงนิดนึงค่ะ แต่แดดก็แรงเช่นกันถือว่าอากาศสมดุลเนอะ ฮ่าๆ เสร็จจากตรงนี้ก็บ่ายคล้อยจะเย็นย่ำ เราก็ตรงไปที่พักเลยที่ Port Campbell


             พอมาถึง Port Campbell เราก็ตรงไปยังที่พักชื่อ Sea Foam ซึ่งเราจองผ่านทาง Booking ลักษณะที่พักเป็นบ้าน 1 หลังถือว่าดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ ฮ่าๆ และราคาไม่แพงด้วย ตกคืนละ $580 (เฉลี่ยคนละ $48) ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น พร้อมครัวและอุปกรณ์ทำครัว และแน่นอนค่ะ เราได้นอนห้องนั่งเล่น ขนหมอน ขนผ้าห่มกันออกมา ปาร์ตี้กันยาวปายยยย ฮ่าๆๆ 

             Day 2 เช้านี้มีเพื่อนทำอาหารเช้าให้ด้วย ว้าวววววไปเลย พอทุกคนทำธุระส่วนตัวกันเสร็จ เราก็ออกจากที่พักเวลาประมาณ 9.00 น. และตรงไปยังสถานที่ต่อไปที่เราลิสต์ไว้คือ
  • The arch
  • London Bridge
  • The grotto
  • Loch Ard Gorge

                   สถานที่ข้างต้นส่วนใหญ่จะตั้งชื่อให้สอดคล้องกับรูปร่างของหินที่ตั้งอยู่กลางทะเลค่ะ เช่น The arch, London Bridge ซึ่งเกิดจากกระบวนการกัดกร่อนของหินที่กองซ้อนกันทำให้เกิดเป็นรูปทรงที่แตกต่างกันไปตามธรรมชาติ ส่วน Loch Ard Gorge จะมีลักษณะเป็นบีชที่อยู่ท่ามกลางช่องหุบเขา ดูสวยน่าค้นหาดีค่ะ ตรงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมมาถ่ายรูปกันค่ะ

           
           สรุปภาพรวมของทะเลที่นี่ลักษณะของน้ำทะเลจะมีสีน้ำเงินสวยโดดเด่นคล้ายกันเกือบทั้งหมดในแต่ละจุด ส่วนการจัดการเรื่องการท่องเที่ยวก็ดีค่ะ สถานที่สะอาดสะอ้าน เส้นทางการเดินก็สะดวกสบาย ทุกคนสามารถเดินทางมาได้ไม่จำกัดเพศ อายุ วัยเลยค่ะ อ้าววว เผลอแปปเดียวถึงเวลาต้องกลับแล้ว ดื่มด่ำบรรยากาศริมทะเลจนเต็มอิ่ม เราก็แพ็คความสุข และความสนุกกลับเข้าตัวเมืองเมลเบิร์นกันค่ะ

ทริปนี้จบแล้ว ไว้เจอกันทริปหน้านะคะ ^^ 
Escape, and breathe the air of new places.

Concludes:
Place : Great Ocean Road, Victoria, Melbourne, Australia
Car Rent : Thrifty Car Rent
Stay : Sea Foam, Lord Street, Campbell












Comments